บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

ผมภูมิใจนำเสนอรายงานความยั่งยืนประจำปี 2566 ซึ่งครอบคลุมกลยุทธ์ ความมุ่งมั่น และความพยายามในการดำเนินงานเพื่อขยายธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ผลลัพธ์ของการดำเนินงานในช่วงปีที่ผ่านมาแสดงถึงการเติบโตของธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนำสู่การบุกตลาดใหม่ๆ และผลักดันให้ไมเนอร์กลับมาทบทวนและปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ของประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนต่างๆ เพื่อจัดทำแนวทางการดำเนินงานได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น

ปัจจุบันบทบาทของธรรมชาติในการสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ได้รับความสำคัญมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศที่เปราะบางก็กำลังเผชิญกับวิกฤตเช่นเดียวกับภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ไมเนอร์ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพมาอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ เราได้ขยายขอบเขตงานอนุรักษ์ของเราและสามารถคุ้มครองชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่อยู่ในบัญชีแดงขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) ได้ถึง 94 สายพันธุ์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 82 สายพันธุ์ ในปี 2566

เรายังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 เพื่อรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในระหว่างที่เรากำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อตั้งเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets Initiative - SBTi) เราได้ตั้งเป้าหมายระยะสั้นในการลดอัตราการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อห้องของไมเนอร์ โฮเทลส์ลงร้อยละ 15 ภายในปี 2568 เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2566 เราสามารถลดอัตราการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อห้องได้เมื่อเทียบกับปี 2565 อย่างไรก็ตามการขยายธุรกิจโดยเฉพาะการขยายจำนวนโรงแรมประเภทรีสอร์ทส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อห้องสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขณะที่ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามการดำเนินงานด้านการลดอัตราการใช้น้ำ การลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว และการลดอัตราการปล่อยของเสียอินทรีย์สู่การฝังกลบของโรงแรมนั้นยังคงเป็นไปตามแผน ในปี 2567 เราจะเร่งดำเนินงานด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้เป็นไปตาม เป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์

กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของเราจะสำเร็จไม่ได้หากขาดทรัพยากรบุคคล แผนการเติบโตของธุรกิจของเราส่งผลให้การดึงดูด พัฒนา และรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้กับองค์กรทวีความสำคัญมากขึ้น ในปี 2566 นักเรียนนักศึกษาที่ผ่านโครงการ Minor Corporate University (MCU) เลือกที่จะกลับมาทำงานกับไมเนอร์ ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความสำคัญของโครงการ MCU ในการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะให้กับองค์กรและเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชน เราจึงขยายเป้าหมายใหม่ โดยตั้งเป้าให้นักเรียนนักศึกษาที่ผ่านโครงการกลับเข้าร่วมงานกับเราอย่างน้อยร้อยละ 60 ภายในปี 2568

การเติบโตของธุรกิจอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมาส่งผลให้จำนวนบุคลากรระดับบริหารที่มีอยู่ในองค์กรไม่เพียงพอรองรับการขยายตัวนี้ ส่งผลให้เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายในการบรรจุตําแหน่งระดับบริหารอย่างน้อยร้อยละ 50 ด้วยพนักงานภายใน อย่างไรก็ตามการขยายธุรกิจในตลาดใหม่ๆ จะเพิ่มโอกาสให้ไมเนอร์เข้าถึงบุคลากรหลากหลายที่มีศักยภาพในแต่ละพื้นที่มากขึ้น เราจัดตั้ง Center of Excellence เพื่อยกระดับความรู้และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กร รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่พนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่

กิจกรรมจิตอาสาภายใต้สโลแกน “Together with Love” ของไมเนอร์สะท้อนถึงความตั้งใจในการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส เรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาและสนับสนุนคนให้ได้ 3 ล้านคนภายในปี 2573 และสามารถพัฒนาและสนับสนุนคนกว่า 712,000 คนทั่วโลกผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมของเราตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา นอกจากนี้เราให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานอันเป็นเลิศซึ่งรวมถึงส่งเสริมความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน แขก และลูกค้าของเรา รวมถึงการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนท้องถิ่นและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีต่อสุขภาพให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

การกำกับดูแลกิจการที่ดีและวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ เรามีการเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นทั้งภายในองค์กรและจากการดำเนินงาน พร้อมทั้งจัดการฝึกอบรมด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่พนักงาน นอกจากนี้เราเล็งเห็นว่าซัพพลายเออร์เป็นผู้มีส่วนได้เสียสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เราทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ในการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 และพัฒนากรอบการดำเนินงานเพื่อประเมินและป้องกันผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ การประเมินซัพพลายเออร์นับเป็นกลไกสำคัญที่สื่อสารความคาดหวังการดำเนินงานตามความยั่งยืนและยกระดับซัพพลายเออร์ในการพัฒนากระบวนการและผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งซัพพลายเออร์ขนาดเล็กและขนาดกลาง

การดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเราให้รับการยอมรับจากองค์กรภายนอกอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 ไมเนอร์ได้คะแนนด้านการกำกับดูแล กิจการที่ดีในระดับ “ดีเลิศ” จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 11 และได้รับเลือกให้อยู่ใน S&P Global's Sustainability Yearbook 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Hotels, Resorts & Cruise Lines ด้วยคะแนน Top 10% ESG Scores นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกของ FTSE4Good Index Series และได้ผลการประเมินจาก MSCI ESG Rating ในระดับ AA

ผมภูมิใจกับการดำเนินงานที่ผ่านมาของเราและทราบดีว่าเรายังสามารถพัฒนาการดำเนินงานของเราเพิ่มได้ในหลายๆ ด้าน ผมขอเชิญชวนให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มมาร่วมกับไมเนอร์ในการรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ผมขอขอบคุณพนักงานไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลทุกคนสำหรับความทุ่มเทและมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่สำคัญนี้ ตลอดจนความสนับสนุน ความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่มีต่อเราเสมอมา

ผมรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่รออยู่ในปี 2567 และพร้อมที่จะเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ ก้าวข้ามขีดจํากัด ในขณะที่เราเดินหน้าสู่ความสำเร็จ